ผู้พัฒนา PUBG เผยเรื่องราวกว่าจะมาเป็นแผนที่ Vikendi

ทีมผู้พัฒนาเผยว่า แผนที่ Vikendi ถูกสร้างขึ้นภายใต้ข้อสำคัญเรื่องของความสมดุลระหว่างเกมเพลย์ที่รวดเร็วในแผนที่ Sanhok และการสำรวจพื้นที่ขนาดใหญ่ในแผนที่ Miramar, Erangle ซึ่งภายในแผนที่ Vikendi จะเต็มไปด้วยหิมะและมีสภาพแวดล้อม, สภาพภูมิศาสตร์แตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะช่วยสร้างเกมเพลย์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับแผนที่นี้และแตกต่างจากเกมเพลย์ในแผนที่เก่าๆ ในส่วนของผู้เล่นจะต้องปรับทั้งเทคนิคการเล่น การบุก การตั้งรับ และการวางแผนให้รอบคอบรัดกุมมากขึ้น เพราะสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นมานั้นใช้เป็นจุดพรางตัวได้อย่างดี อีกทั้งเอฟเฟกต์ต่างๆที่ผู้พัฒนาได้ใส่เพิ่มเข้ามาไม่ว่าจะเป็น หิมะ, รอยเท้า, ต้นไม้ที่เป็นเสมือนป่าจริงๆ ไอเย็นที่ลอยเหนือพื้นดิน แม้กระทั่งแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านกิ่งไม้ต้นไม้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เกิดเกมเพลย์ใหม่ๆได้เพราะเขาต้องการให้ผู้เล่นใช้สภาพแวดล้อมให้เป็นประโยชน์ ต้องคิดและวางแผนว่าจะเล่นอย่างไร ไปทางไหน เช่น รอยเท้าบนหิมะ สามารถบ่งบอกได้ว่าศัตรูหรือเหยื่อมุ่งหน้าไปยังทิศทางไหน หรือจะใช้รอยเท้าเป็นกับดักล่อให้ศัตรูเข้ามาติดกับทำได้ สิ่งสำคัญที่ผู้พัฒนาได้บอกเอาไว้คือ “อย่าลืมว่าทุกคนก็คิดแบบเดียวกับคุณ” ดังนั้นเกมเพลย์มันจึงพลิกไปพลิกมาได้ตลอด




เทคโนโลยีใหม่ๆและเทคนิคการสร้างแบบใหม่ๆ ทำให้เกิดแผนที่ Vikendi ขึ้นมาและมันคือการพัฒนาศักยภาพของทีมและเป็นหนึ่งในเป้าหมายใหญ่ๆที่ทีมผู้พัฒนาได้วางเอาไว้ และมีโจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้ผู้เล่นรู้สึกว่าแผนที่นี้มันสนุกและสัมผัสได้ถึงความเป็นหิมะจริงๆ ป่าจริงๆ อย่างที่พวกเขาคาดหวังไว้ นั่นคือส่วนที่ยากที่สุดสำหรับการออกแบบ Vikendi นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเอฟเฟกต์ของ Snowmobile ทั้ง 2 แบบที่มีเรื่องความสมจริงเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้่น โดยการใช้ยานพาหนะเคลื่อนที่ไปยังพื้นผิวแบบต่างๆ ซึ่งผู้พัฒนาได้กล่าวไว้ว่ามันไม่ง่ายที่จะใช้ Snowmobile เคลื่อนที่ไปยังพื้นที่เป็นดินหรือทรายคุณจะรู้สึกถึงความสมจริงมากขึ้นเมื่อคุณเดินทางไปยังสภาพพื้นผิวที่ไม่เอื้ออำนวย และสิ่งที่ขาดไปไม่ได้สำหรับ Vikendi นี้นอกเหนือจากเอฟเฟกต์ที่สร้างขึ้นมาหรือความสมจริงของยานพาหนะคือ ชุดพรางต่างๆที่ได้รับการออกแบบมาอย่างปราณีตและใส่ใจทุกรายละเอียด



ทีมผู้พัฒนาได้กล่าวถึงเกมเพลย์เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยว่า พวกเขามองย้อนกลับ ไปที่แผนที่ Erangle และมองว่าการต่อสู้มันดูสนุกมากก็จริง แต่ลักษณะของเกมเพลย์ดูเผินๆก็แค่นั่งฟาร์มของ ชมทิวทัศน์ และพูดคุยกับเพื่อนๆ ถึงเวลาก็แคมป์ สลับกับต่อสู้ แล้วก็แคมป์ต่อ สลับกับต่อสู้ จนเกมจบ มันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น พวกเขารู้สึกว่ามันเหมือนการเข้ามานั่งคุยเล่นกับเพื่อนๆซะมากกว่าที่จะต่อสู้วางแผนกันอย่างจริงจัง ดังนั้นพวกเขาต้องการทำให้เกมเพลย์มันดูสำคัญมากกว่านั้น มีรูปแบบที่แปลกและแตกต่างจากเดิม และแผนที่ Vikendi จะสามารถทำให้ฟีลลิ่งของการต่อสู้เปลี่ยนไปและคิดว่านั่นคือจุดแข็งที่ Vikendi มี



